วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ไดอารี่ฉบับ MMUMANIA

กรกฎาคม 2008
วันเกิด mmumania.com คือวันที่ 10 กรกฎาคม 2008 ค่ะ เพราะเป็นวันแรกที่ลงทะเบียนเปิดร้านกับ weloveshopping ค่ะ แต่ช่วงแรกยังไม่ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ เป็นช่วงทยอยลงของในหน้าเวบ เปิดขายแบบจริงๆก็ประมาณ 1 เดือนให้หลังค่ะ

สิงหาคม 2008
ถือฤกษ์ดี 8/8/8 เป็นวันเปิดร้านอย่างเป็นทางการค่ะ

เมษายน 2009
เริ่มวางขาย MMUMANIA "Face Soul Mate Brush Set" ชุดแปรงสำหรับ mmu โดยเฉพาะ เปิดตัวด้วยกิจกรรม ราคาพิเศษลด 50% ทุกๆต้นชั่วโมง ลุ้นกันทั้งคนขาย ทั้งลูกค้าเลยค่ะ เพราะสาวๆ โทรกระหน่ำกันสุดๆ เลย

มิถุนายน 2009
จดทะเบียนพาณิชย์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ MMUMANIA

กรกฎาคม 2009
กิจกรรมฉลองครบ 1 ปี "Academy FanMANIA" ชวนสาวๆมาโชว์ลีลารีวิวการแต่งหน้า และเปิดให้โหวตกันว่ารีวิวของใครโดนใจมากที่สุด ก่อนจะได้รับรางวัลกันไปทั้งคนรีวิว และคนโหวต

ตุลาคม 2009
จดแจ้งส่วนผสมกับคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ช่วงนั้นยังอยู่ที่สมุทรสงคราม ก็ศึกษาข้อมูล ติดต่อสาธารณสุขจังหวัด และเตรียมเอกสารอยู่เป็นเดือนเลยค่ะ โดยช่วงนั้น เค้ากำหนดให้ต้องเข้ามาขอกับ อย.ส่วนกลางที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรีเท่านั้น ก็เข้ามาขอตั้งแต่เช้าตรู่ และขอตัวที่เป็นสินค้าหลักๆ ทั้ง 10 หมวดเรียบร้อยค่ะ
นอกจากนี้ยังเปลี่ยนแพกเกจจิ้งสำหรับขนาดเล็ก มาใช้ตลับแบบมีตะแกรงกรองผง (sifter) เพื่อให้ลูกค้าสะดวกใช้มากขึ้น โดยช่วงแรกเป็นตลับสีน้ำตาลทอง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าในช่วงปลายปี 2010 และล่าสุดเป็นสีน้ำตาลแบบรุ่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบันค่ะ

พฤศจิกายน 2009
เริ่มกิจกรรมเล็กๆ เพื่อท้องถิ่น โดยการนำถุงผ้าที่ตัดเย็บโดยชมรมผู้สูงอายุในจังหวัด มาใช้เป็นถุงใส่ mmu รุ่น Limited Edition
และนำสินค้าของกลุ่มแม่บ้านที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ของกระทรวงอุตสาหกรรม มาพัฒนาแพกเกจจิ้งและวางจำหน่ายในชื่อ "Bamroong"

มกราคม 2010
ออกบลัชออนรุ่นพิเศษ "Healing Haiti" นำรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ

กุมภาพันธ์ 2010
เปิดช่องทาง social media ให้สาวๆติดต่อกับร้านได้มากขึ้น ทั้งเฟซบุ๊คที่หน้าเพจ www.facebook.com/ilovemmumania
และทางทวิตเตอร์ที่ www.twitter.com/mmumania

กุมภาพันธ์ 2011
เปิดอีกหนึ่งช่องทางสำหรับสื่อสารกับลูกค้า โดยเปิดช่องยูทูป www.youtube.com/user/mmumania โดยในอนาคตจะมีคลิปวิดีโอที่น่าสนใจเกี่ยวกับ mmu เพิ่มขึ้นอีกค่ะ

มีนาคม 2011
ออกบลัชออนรุ่นพิเศษ "Hope for Japan" เพื่อนำรายได้ทั้งหมดมอบให้กองทุนอาหารโลกนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามีที่ประเทศญี่ปุ่น
และจัดประมูลชุดแปรง Face Soul Mate Brush Set นำเงินมอบให้สภากาชาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฤดูร้อน

กันยายน 2011
นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้ามอบให้กับสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในขณะนี้

ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว และกิจกรรมต่างๆที่ MMUMANIA เคยได้ทำมาตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าที่เปิดร้านค่ะ และแน่นอนว่าในอนาคตก็จะมีอีกหลายๆกิจกรรมที่จะตามมาให้สาวๆ ได้ร่วมสนุกกัน โดยจุดมุ่งหมายจริงๆ ไม่ใช่เพื่อยอดขายเป็นที่หนึ่ง หรือต้องมีคนรู้จักเป็นที่หนึ่งค่ะ แต่เพื่อเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งสำหรับแบรนด์ mmu ของคนไทย ที่สาวๆสามารถเลือกใช้ได้แบบสบายใจ และสบายกระเป๋าเท่านั้นก็พอค่ะ

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จับ MMUMANIA "Photogenic Collection" มาเรียงตัวโชว์สีจ้า

ตอนที่แล้ว พาสาวๆไปรู้จักกับคอลเลคชั่นใหม่กันไปแล้วนะคะ ว่า MMUMANIA "Photogenic Collection" เมคอัพ MMU จากแร่ธาตุธรรมชาติเพื่อสาวๆที่รักการถ่ายรูปโดยเฉพาะ มีอะไรพิเศษกว่าเดิมบ้าง ใครพลาดไป ตามไปอ่านย้อนหลังกันได้ ที่นี่

ส่วนตอนนี้ เราจะจับ MMU สีสวยๆ มาเรียงตัวให้สาวๆได้เห็นกันชัดๆไปเลยจ้า ทั้งบลัชออนและก็อายแชโดว์เลยทีเดียวเชียวแหละ

MMUMANIA "Photogenic Collection" : Blush On





Apollo ภาพลักษณ์ชมพูหวานใส เนื้อแมท เบาโปร่ง ปัดแล้วให้สีแดงอมชมพู ช่วยให้สาวๆ ผิวมันไม่ต้องกังวลกับผิวแก้มเงาวาวอีกต่อไป ติดทนนานทั้งวันแม้โดนเหงื่อหรือความมันจากผิวหน้า
Russian Toy บลัชเนื้อฉ่ำเงาเนียน ละเอียด สีแดงบ่มแดด ติดทนนานไม่ต้องปัดทับระหว่างวัน สาวที่ชอบลุคฉ่ำไม่ควรพลาดค่ะ
Lomo บลัชสีส้มอมชมพูประกายทอง สีที่เหมาะกับทุกสีผิว ปัดได้ทุกโอกาส
Red Scale บลัชแมท เนื้อวาว สีส้มสดใส ไม่ต้องเติมระหว่างวัน ติดทนนานทั้งวันแม้โดนเหงื่อหรือความมันจากผิวหน้า



MMUMANIA "Photogenic Collection" : Eyeshadow





Holka สีน้ำตาลม่วงเนื้อแมท เหลือบแดง
Toaster สีแดงอมส้มหม่นๆ เนื้อเงา
Walden สีเขียวหม่นๆ เหลือบทอง เนื้อเงา
Early Bird สีแดงหม่น เนื้อเงาวาว

เห็นสีสวยๆกันไปแล้วนะคะ สีไหนถูกใจก็ช้อปเอาไปแต่งหน้า แชะภาพอวดหน้าสวยกันได้ ที่นี่ เลยนะคะสาวๆ

ได้ภาพแล้วอย่าลืมเอามาอวดกันมั่งน้าาา...






วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แนะนำ MMUMANIA "Photogenic Collection" MMU สำหรับสาวๆชอบถ่ายรูปโดยเฉพาะ



แชะ..แชะ..แชะ

จะอัพ facebook แชร์ใน twitter โชว์ใน instagram สมัยนี้มีที่ให้สาวๆโชว์รูปสวยๆกันมากมาย แล้วจะดีมั้ย ถ้ามีเมคอัพ MMU แบบที่ช่วยให้หน้าสวยของสาวๆ ยิ่งสวยเด้ง พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์แชะ

MMUMANIA "Photogenic Collection" เมคอัพ MMU จากแร่ธาตุธรรมชาติสูตรใหม่ ปรับปรุงให้ตอบโจทย์ความต้องการของสาวๆมากขึ้น ทั้งการควบคุมความมัน แถมติดทนนานมากขึ้นอีกระดับ แต่ยังคงเบาสบายไม่หนักหน้าเหมือนเดิม ให้คุณพร้อมท้าทุกชัตเตอร์ ด้วยส่วนผสมที่คัดเลือกเป็นพิเศษ เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นเมคอัพ MMU ในใจของคุณ

- Boron Nitride แร่ธาตุธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความเรียบลื่น ติดทนนาน ปกปิดดีเยี่ยม แต่เบาสบายหน้า
- Silica Powder (Silicon Dioxide) แร่ธาตุที่ช่วยดูดซับความมัน เบาสบายโปร่งแสง พร้อมช่วยพรางริ้วรอยบางบนใบหน้า ให้ดูหน้าเรียบเนียน มั่นใจขึ้นแม้ต้องถ่ายภาพใกล้ๆ

เตรียมพบกับ MMUMANIA "Photogenic Collection" เมคอัพ MMU จากแร่ธาตุธรรมชาติที่ตอบสนองความต้องการหลากหลายของสาวๆที่หลงใหลการถ่ายรูป ครบถ้วนเต็มคอลเลคชั่น ทั้งรองพื้น บลัชออน อายแชโดว์ และแป้งฝุ่นได้เร็วๆนี้ ที่ www.mmumania.com

เพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้ายิ่งกว่าเคยด้วย L-Ascorbic Acid

สมัยนี้ไม่ว่าครีมบำรุงผิวชนิดไหน ก็มักจะใส่วิตามินซี เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้า บางชนิดก็ใส่ในปริมาณที่ออกฤทธิ์ได้จริง
แต่บางชนิดอาจจะใส่ปริมาณน้อยมาก จนแทบไม่มีผลในการบำรุงเลย

แล้วเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเงินที่เราจ่ายไป จะคุ้มค่า และได้คุณค่าบำรุงจากวิตามินซีอย่างแท้จริง

คงจะดีกว่า ถ้าคุณสามารถผสมวิตามินซีบำรุงผิวได้ด้วยตัวเอง และใช้บำรุงแบบสดๆ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับคุณค่าบำรุงจริงๆ

L-Ascorbic Acid เป็นวิตามินซีในรูปแบบผลึกผงคริสตัล ซึ่งเป็นสถานะที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถคงคุณค่าการบำรุงได้มากที่สุด
เพราะวิตามินซี เมื่อมีการเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำหรือครีม ความเสถียรก็จะค่อยๆลดลงตามระยะเวลา ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้วิตามินซีผสมอยู่ จึงต้องคิดค้นหาวิธีคงคุณค่าเอาไว้ให้ยาวนานที่สุด ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ต้องมีราคาสูงมากขึ้นไปด้วย

L-Ascorbic Acid วิตามินซีในรูปแบบผลึกผงคริสตัล ที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบการดูแลผิวหน้าของสาวๆโดยสามารถผสมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีอยู่แล้วและใช้บำรุงในทันที เพื่อให้ผิวหน้าได้รับคุณค่าจากวิตามินซีอย่างเต็มที่ เพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าได้มากกว่าที่เคย

วิธีใช้ L-Ascorbic Acid บำรุงผิว
- เทผง L-Ascorbic ลงบนฝ่ามือเพียงเล็กน้อย
- เทครีมบำรุงผิวหน้าลงไปผสม (สามารถใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมัน,ครีม หรือน้ำเป็นเบส แต่ในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นเบสจะทำละลายได้ง่ายที่สุด)
- ใช้นิ้วค่อยๆวนผสมจน L-ascorbic Acid ละลาย จากนั้นใช้บำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ

ข้อแนะนำ
- ควรผสมใช้ทีละครั้ง ไม่ควรผสมไว้จำนวนมาก เพราะจะทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพ
- เก็บให้พ้นแสงแดด
- หากคุณเป็นสาว MMU ในช่วงกลางวัน ก็ควรใช้ L-Ascorbic Acid บำรุงในช่วงกลางคืน เพราะสำหรับบางคนเมื่อใช้ MMU ร่วมกับวิตามินซี สีของ MMU อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
- สำหรับสาวผิวอ่อนบาง ไม่ควรใช้ L-Ascorbic ร่วมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี AHA หรือ BHA ผสมอยู่ เพราะต่างก็มีฤทธิ์เป็นกรดทั้งคู่ ผิวหน้าคุณอาจจะไม่คุ้นเคย

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ขนสัตว์กับขนสังเคราะห์ จะเลือกใช้คาบูกิแบบไหนดีน้า



เป็นคำถามที่สาวๆหลายคนคงมีอยู่ในใจ เวลาที่จะคลิกสั่งซื้อใช่มั้ยคะ ว่า
"เอ๊ะ...เราจะเลือกคาบูกิขนแบบไหนดีกว่ากัน"

จริงๆแล้วก็เหมือนของทั่วไปล่ะค่ะ ไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์ 100% คาบูกิขนสัตว์และขนกระรอกก็เช่นเดียวกัน ทั้งคู่ต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปค่ะ ลองดูข้อมูลข้างล่าง แล้วก็พิจารณาดูได้เลยจ้ะ ว่าเราน่าจะเหมาะกับขนแปรงประเภทไหน

คาบูกิขนสัตว์ สาวๆหลายคนคงเคยได้ยินมาว่าใช้แปรงขนสัตว์ดีกว่า โดยเฉพาะขนกระรอกที่มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ ซึ่งข้อดีของแปรงขนสัตว์คือ บัฟขึ้นเงาได้ง่าย ใช้แล้วรู้สึกได้ถึงความเนี้ยบของใบหน้าที่เรียบเนียน แต่สำหรับบางคนที่ผิวอ่อนบางมากกว่าปกติ ใช้แปรงขนสัตว์บัฟนานๆ อาจจะรู้สึกคันยิบๆ ทั้งนี้ก็เพราะถึงขนจะนุ่มแค่ไหน แต่ก็ได้เต็มที่เท่าที่ขนธรรมชาติจะเป็นไปได้นั่นเองค่ะ

คาบูกิขนสังเคราะห์ ด้วยความที่เป็นขนสังเคราะห์นี่เอง ทำให้สามารถสร้างให้ขนนุ่มแค่ไหนก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นขนสังเคราะห์คุณภาพสูง สาวๆสามารถใช้บัฟได้เรื่อยๆ จนไม่รู้สึกระคายเคืองหน้าเลยค่ะ แต่ข้อจำกัดของคาบูกิขนสังเคราะห์ก็มีอยู่ค่ะ เพราะขนแปรงอาจจะดีดผงmmu มากหน่อย อาจจะต้องใช้ผงในการบัฟมากกว่าแปรงขนสัตว์ซักเล็กน้อยค่ะ

ได้รู้ข้อมูลของขนแปรงทั้ง 2 แบบแล้วก็ลองเปรียบเทียบและเลือกชนิดที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดนะคะ หรือจะมีไว้ทั้ง 2 แบบ สำหรับโอกาสการใช้ที่ต่างกันก็ได้เหมือนกันล่ะจ้า


วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เหตุผลว่าทำไม MMU ต้องเป็นผง


มือใหม่หลายคนอาจจะสงสัยกันอยู่ใช่มั้ยล่ะคะ ว่าทำไม MMU ถึงต้องเป็นผง ไม่เห็นเหมือนเมคอัพทั่วๆ ไป ที่มาเป็นตลับอัดแข็ง

เปรียบเทียบง่ายๆ กับอาหารแล้วกันค่ะ เมคอัพแบบปกติก็เหมือนอาหารทั่วไป ที่ขั้นตอนการทำก็อาจจะใส่ทั้งวัตถุดิบ และเครื่องปรุงแบบเต็มเหนี่ยว เรียกว่าทั้งเนื้อ แป้ง น้ำมัน มากันครบ จนมาวันนึงเราก็พบว่า อาหารพวกนี้อาจจะเป็นบ่อเกิดของความอ้วนและโรคต่างๆ หลายๆ คนก็เลยหันมาสนใจอาหารเพื่อสุขภาพกัน โดยอาหารเพื่อสุขภาพก็คืออาหารที่ตัดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น พวกน้ำมันเยิ้มๆ น้ำตาลช้อนพูนๆ ออกไป เหลือไว้เฉพาะที่ร่างกายต้องการในหนึ่งมื้อเท่านั้น

MMU ก็เหมือนอาหารเพื่อสุขภาพนั่นล่ะค่ะ เพราะ MMU ก็คือเมคอัพที่ตัดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น จำพวก น้ำมัน ซิลิโคน น้ำหอม สารเคมี รวมถึงสารยึดเกาะอื่นๆ ออกไป ซึ่งสารพวกนี้แหละค่ะที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของสิวอุดตัน อาการแพ้และอาการระคายเคือง ที่ทำให้หลายๆ คนเข็ดขยาดกับการแต่งหน้า แถมต้องเสียเงินไปรักษาสิวอุดตันจากเครื่องสำอางกันอีก โดยส่วนประกอบหลักๆ ของ MMU ก็จะมีเพียงแร่ธาตุจำพวก Titanium Dioxide , Zinc Oxide , Iron Oxide และ Mica เท่านั้น ด้วยเหตุนี้แหละค่ะ เราถึงได้เรียกเมคอัพประเภทนี้ว่า Mineral Makeup (MMU) หรือเครื่องสำอางจากแร่ธาตุนั่นเอง

ทีนี้สาวๆ ก็จะเห็นแล้วใช่มั้ยคะว่า MMU ที่แท้จริงจะมีส่วนประกอบจากแร่ธาตุธรรมชาติเท่านั้น ไม่มีสารยึดเกาะผสมอยู่เลย ซึ่งนั่นล่ะค่ะ คือเหตุผลที่ทำไม MMU ที่แท้จริงจะต้องเป็นผง พูดง่ายๆ คือ ถ้ามีสารยึดเกาะ สารอัดแข็ง หรือส่วนประกอบนอกเหนือจากแร่ธาตุธรรมชาติผสมอยู่มากเท่าไหร่ เมคอัพชนิดนั้นก็จะห่างไกลความเป็น MMU ไปเป็นเมคอัพธรรมดามากขึ้นเท่านั้น

ทีนี้ ถ้าจะบอกว่าอันไหนดีกว่ากัน ระหว่างเมคอัพธรรมดากับ MMU ก็คงจะฟันธงไม่ได้หรอกค่ะ แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน เมคอัพธรรมดามีดีที่สะดวกใช้ แต่ก็มีโอกาสเกิดสิวอุดตันหรือแพ้มากกว่า ส่วน MMU ก็เป็นเมคอัพทางเลือกของสาวๆที่รักผิวหน้ามากเป็นพิเศษ มีโอกาสแพ้น้อย โอกาสอุดตันก็น้อย แต่ก็ต้องใช้แปรงในการบัฟ ถ้าจะให้บอกกันจริงๆคงต้องยืมคำของอาหารเค้ามาใช้ล่ะค่ะ ถ้าเป็นอาหารคงต้องบอกว่า You are what you eat. แต่ถ้าเป็นเมคอัพก็ต้องบอกว่า You are what you choose. รักผิวหน้าแบบไหนก็เลือกแบบนั้นนะคะสาวๆ